TILES
WORLD-CLASS DESIGNER
KITCHEN
“คอตโต้” เตรียมเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด “แพทช์เวิร์ก คอลเลกชั่น (‘Pætchwork/ collection) ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกชาวอิตาเลียน “ปีเอโร่ ลิซโซนี่” (Piero Lissoni) ในงาน มิลาน ดีไซน์ วีก 2015 ระหว่างวันที่ 13-19 เมษายนนี้ ที่ประเทศอิตาลี พร้อมเดินหน้าโครงการ Another Perspectives สนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่มีผลงานน่าจับตามองจาก ให้มีผลงานโลดแล่นในเวทีระดับโลก
นายอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์คอตโต้ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า แพทช์เวิร์ก คอลเลกชั่น นับเป็นการผสมผสานระหว่างความสวยงามและอรรถประโยชน์ ประกอบไปด้วยกระเบื้อง สุขภัณฑ์ และก๊อกน้ำ ซึ่งปีเอโร่ ลิซโซนี่ ได้ออกแบบโดยโดยตีความการตกแต่งห้องน้ำผ่านสไตล์อันหรูหราลุ่มลึกที่แตกต่างไปจากลวดลาย พื้นผิว หรือสีของกระเบื้องเซรามิกแบบดั้งเดิม โดยกระเบื้องในคอลเลกชั่นนี้มีรูปแบบที่หรูหราในสไตล์อิตาเลียน มีทั้งผิวมันและผิวด้าน มีโทนสีตั้งแต่สีขาว สีเนื้อ สีเปลือกไข่ สีน้ำเงินเข้ม และสีกราไฟต์ โดย ‘Patchwork/ Line และ ‘Patchwork/ Grid จะมีทั้งผิวมันและผิวด้าน มีลวดลายทางหรือตารางหมากรุกแบบนูนต่ำ มองดูคล้ายกับภาพสเก็ตช์ที่วาดไว้จางๆ สามารถปูคละลายสี่แผ่น เพื่อสร้างรูปแบบที่สวยงามดูสบายตา สำหรับกระเบื้อง ‘Patchwork/ Boiserie มีลักษณะโดดเด่นที่ตัวขอบกระเบื้องที่มีลักษณะคล้ายกรอบไม้ ที่ถูกออกแบบมาจากเอกลักษณ์ของงานไม้ของชาวเอเชีย
สำหรับสุขภัณฑ์ในคอลเลกชั่นนี้ ปีเอโร ลิซโซนี่ ได้ออกแบบอ่างล้างมือให้มีทั้งแบบแขวนและแบบตั้งพื้นด้วยขาตั้งด้านหน้า ส่วนอ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยมขอบมน หลุมอ่างขนาดใหญ่ และขอบของผิวอ่างด้านบนโค้งเว้ามนขึ้นอย่างโดดเด่น ผสมผสานกับกล่องไม้ที่ถูกออกแบบอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีชั้นวางของเซรามิกที่ออกแบบมาในรูปทรงเรขาคณิต ที่ใช้ติดผนังอีกด้วย ซึ่งหลักการออกแบบที่โค้งเนียนตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) นี้ยังนำไปใช้กับการออกแบบโถชำระล้างและโถสุขภัณฑ์ ทั้งแบบที่ฝังเข้าไปในผนังและแบบตั้งพื้น ในส่วนของก๊อกน้ำ ปีเอโร่ ลิซโซนี่ ได้ออกแบบก๊อกน้ำชุบโครเมียมที่มีให้เลือกทั้งแบบติดบนเคาน์เตอร์ แบบติดผนัง และยังมีก๊อกผสมสำหรับอ่างอาบน้ำแบบตั้งพื้น รวมถึงชุดฝักบัวสำหรับห้องอาบน้ำ ซึ่งได้รับการออกแบบโดยเน้นความงามบริสุทธิ์อย่างมีสไตล์
นายอนุวัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า แพทช์เวิร์ก คอลเลกชั่น ของแบรนด์คอตโต้น่าจะเป็นไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมงานมิลาน ดีไซน์ วีก ในปีนี้ ซึ่งงานนี้นับเป็นงานแสดงสินค้าระดับโลก จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 เมษายนนี้ ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งหลังจากเปิดตัวในงานนี้แล้ว คอตโต้จะนำแพทช์เวิร์ก คอลเลกชั่น มาเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยต่อไป
“นอกจากการเปิดตัว แพทช์เวิร์ก คอลเลกชั่น แล้ว คอตโต้ยังได้นำอิตาเลีย คอลเลกชั่น (Italia Collection) และแกรนเด้ คอลเลกชั่น (Grande Collection) ไปแสดงในงานมิลาน ดีไซน์ วีก เป็นครั้งแรกด้วย นอกจากนี้ คอตโต้ในฐานะ Trendsetter ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมการออกแบบ ยังได้จัดโครงการ Another Perspectives เพื่อสนับสนุนให้นักออกแบบรุ่นใหม่จากทั่วโลกได้มีโอกาสนำเสนอผลงานของตัวเองบนเวทีระดับโลก ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Space of Beauty โดยรวบรวมดีไซเนอร์รุ่นใหม่ทั้งสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ สถาปัตยกรรม และตกแต่งภายในที่มีผลงานน่าจับตามอง 10 คน จาก 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เยอรมนี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส มาโชว์ไอเดียใหม่ๆ ในโซน Ventura Lambrate ซึ่งนับเป็นอีกโซนหนึ่งที่ผู้ร่วมงานมิลาน ดีไซน์ วีก ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก” นายอนุวัตร กล่าว
สำหรับประวัติของปีเอโร่ ลิซโซ่นี่ จบการศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์จากสถาบัน Politecnico di Milano มีผลงานทั้งสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน รวมไปถึงผลงานออกแบบทั้งเชิงอุตสาหกรรมและผลงานกราฟฟิค อาทิ โรงแรม รีสอร์ท โรงละคร โชว์รูม ร้านค้า ร้านอาหาร อพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน บูธตามงานแสดงสินค้า บ้านพักอาศัย เรือยอทช์ รวมไปถึงการจัดวาง การจัดแสง การกำกับศิลป์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการสร้างเอกลักษณ์องค์กร นอกจากนี้ ปีเอโร่ ลิซโซนี่ยังได้คิดโปรเจ็คต์ให้กับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หลาย แบรนด์ และเข้าสู่โลกแฟชั่นด้วยการออกแบบร้านของแบรนด์เสื้อผ้าอิตาเลียน Benetton, Gallo, Piazza Sempione, Santandrea, Serapian รวมถึงเขาได้ออกแบบโชว์รูมให้กับ Elie Tahari ดีไซเนอร์เสื้อผ้าสตรีชาวนิวยอร์กด้วย ปัจจุบันเขาได้รับการยอมรับในสายงานอย่างกว้างขวาง ได้เข้าร่วมงานแสดงผลงานออกแบบประจำปี Venice Biennale Architettura เมื่อปี 2012 ในส่วนจัดแสดงสถาปัตยกรรมโดยนักออกแบบชาวอิตาเลียน Architetture del Made in Italy และยังได้แสดงผลงานในนิทรรศการ Traces of Centuries and Future Steps ณ Palazzo Bemba รวมถึงได้รับการเชิดชูให้อยู่ใน Hall of Fame of Design ที่นิวยอร์กเมื่อปี 2005