TILES
WORLD-CLASS DESIGNER
KITCHEN
เมื่อเขตอุตสาหกรรมในเมือง Zegrze ที่ตั้งอยู่ห่างมาจากเมืองหลวง Warsaw ของประเทศโปแลนด์ถูกทิ้งร้าง ก่อให้เกิดซากโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง และปล่องอุตสาหกรรมร้าง กระจายตัวเป็นวงกว้าง จะมีสักกี่คนที่สามารถมองเห็นโอกาส ในการเปลี่ยนพื้นที่รกร้างแห่งนี้ ให้กลับมามีชีวิต และมีประโยชน์อีกครั้ง
บริษัทสถาปนิก Moko ได้เปิดเผยโครงการใหญ่ ที่มีแนวคิดนำเอาหนึ่งในซากของโรงงานร้างเหล่านี้ กลับมาใช้ใหม่ โดยการสร้างเป็น “ศูนย์ดำนำ้ และ skydiving ในร่ม” ซึ่งสถาปนิกได้เลือกปล่องอุตสาหกรรมคู่ ที่เคยใช้เป็นที่กักเก็บปูนซีเมนต์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เมตร มาแปลงโฉมเพื่อรองรับการใช้งานใหม่ โดยการวางโครงสร้างควบคู่ไปกับตู้คอนเทนเนอร์แบบง่ายๆ ที่สามารถจัดการได้อย่างเร็ว
โครงสร้างหลักของอาคารหลังนี้ ใช้เทคนิคการวางซ้อนทับกันของตู้คอนเทนเนอร์สูง 10 ชั้น เรียงขนาบข้างปล่องอุตสาหกรรมคู่ทั้ง 2 โดยปล่องแรกจะถูกเติมนำ้เข้าไปให้เต็ม เพื่อใช้สำหรับการดำนำ้ในความลึกสูงสุดถึง 25 เมตร ส่วนปล่องที่สอง บริเวณด้านล่างจะถูกทำเป็นอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างทั้ง 2 ปล่อง มีลักษณะเหมือนทางลอดเข้าถำ้ตามธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดำไปโผล่ในอีกปล่องหนึ่งที่มีระดับน้ำตื้นกว่าได้ ถือเป็นการสร้างกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างการดำน้ำได้เป็นอย่างดี
สำหรับบริเวณด้านบนของปล่องที่สอง สถาปนิกได้แบ่งสัดส่วนไว้เป็นพื้นสำหรับกิจกรรม Skydiving เพื่อให้ผู้ใช้งานฝึกบินด้วยตัวเองอย่างสนุกสนาน ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ถูกฝึกซ้อมมาอย่างดี ซึ่งทางเจ้าของโครงกาคาดหวังว่า จะเป็นโครงการที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งในกลุ่มที่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ และกลุ่มที่ต้องการมาฝึกดำนำ้ หรือ Skydiving กับเจ้าหน้าที่มืออาชีพ ในสถานที่ที่มีความปลอดภัย 100%
ส่วนตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกนำมาวางซ้อนขนาบทั้ง 2 ข้างของปล่องอุตสาหกรรม สถาปนิกได้เพิ่มโครงสร้างเหล็กในการยึดเกาะเพียงเล็กน้อย สำหรับใช้เป็นพื้นที่พักอาศัยของโรงแรม ส่วนกลาง และพื้นที่กิจกรรมต่างๆ เพื่อรองรับทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะมาดำนำ้ หรือ Skydiving และครอบครัวนักท่องเที่ยว ที่จะมาพักผ่อนค้างคืนแบบ 2 – 3 วันด้วย โดยตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ จะถูกวางเรียงสลับๆ ซ้อนกันขึ้นไป เพื่อสร้างความน่าสนใจ แต่จะเว้นพื้นที่ช่วงกลางระหว่างปล่องทั้ง 2 สำหรับใช้เป็นทางสัญจรหลักของตัวอาคาร
บริเวณชั้น 1 จะถูกจัดเป็นโถงทางเข้าที่มีร้านกาแฟ มุมอ่านหนังสือ ร้านขายของ ตลอดจนส่วนจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับกิจกรรมขนาดเล็กได้ในบางโอกาส ส่วนชั้น 2 และ 3 จะเป็นพื้นที่สำนักงานของโครงการ โดยที่ชั้น 4 จะเป็นห้องพักสำหรับผู้ที่มา Skydiving ในขณะที่ชั้น 5 จะใช้เป็นห้องอบรม และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของส่วน Skydiving สำหรับชั้นที่ 6 – 8 จะถูกใช้เป็นพื้นที่สำหรับพัก อบรม และเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้ที่มาดำนำ้ ซึ่งเป็นการแบ่งสัดส่วนเพื่ออำนวยสะดวกในการสัญจรไปมาระหว่างชั้น ที่ใช้งานต่างกันได้อย่างลงตัว
นอกจากนั้น ยังออกแบบบริเวณชั้น 9 และ 10 ที่อยู่เหนือปล่องกิจกรรมทั้ง 2 ให้กลายเป็น Sky Lounge สำหรับการชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนราม่าในย่านอุตสาหกรรมร้าง ที่มีความสวยงาม แปลกตาไม่เหมือนวิวที่ไหนๆ ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถมองทะลุลงมาเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ด้านล่างของปล่องทั้ง 2 ได้อีกด้วย
นอกจากที่นี่จะกลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวแบบ extreme ทั่วโลกแล้ว ยังมีเป้าหมายอย่างชัดเจน ที่จะแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการคืนชีพเมืองร้างแห่งนี้ ให้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง ซึ่งคาดว่า จะช่วยให้เกิดการลงทุนในลักษณะเดียวกันกับซากโรงงานอื่นๆ โดยรอบ เพื่อสร้างเป็นเขตธุรกิจ และแหล่งท่องเที่ยว ที่มีเอกลักษณ์ในบรรยากาศแบบเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นของจริง ไม่ได้จำลองขึ้นมามาเลียนแบบ เหมือนที่หลายๆ โครงการนิยมทำกันในปัจจุบัน
ขอบคุณภาพจาก dezeen