แต่งบ้านด้วยศิลปะโมเสก (Mosaic Art) ทำความรู้จัก 5 รูปแบบงานโมเสก ที่จะเปลี่ยนบ้านคุณให้โดดเด่น และพิเศษกว่าที่เคย

"แต่งบ้านด้วยศิลปะโมเสก (Mosaic Art)”

ทำความรู้จัก 5 รูปแบบงานโมเสก ที่จะเปลี่ยนบ้านคุณให้โดดเด่น และพิเศษกว่าที่เคย

    สำหรับใครที่อยากเติมเต็มพื้นที่ภายในบ้านให้ดูมีความยูนีค ดูมีศิลปะอย่างสร้างสรรค์ “งานโมเสก” อาจเป็นอีกรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณเลยครับ เพราะนอกจากจะช่วยมอบสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับบ้านของคุณแล้ว ศิลปะโมเสกยังสามารถนำไปปรับใช้กับพื้นที่ในบ้านได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บริเวณยอดนิยมอย่างกำแพงหรือพื้นทางเดินในห้องต่าง ๆ ไปจนถึงสร้างลูกเล่นให้กับพื้นของสระว่ายน้ำก็สามารถทำได้ แถมยังสามารถดัดแปลงให้มีรูปแบบการวางได้ตามความต้องการได้อีกด้วย รับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยเปลี่ยนบริเวณที่ดูธรรมดาให้สวยงามและไม่เหมือนใครแน่นอนครับ

ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าแท้จริงแล้วงานโมเสกคืออะไร ? 

งานโมเสก คือ ศิลปะหรือกลวิธีที่นำวัสดุชิ้นเล็ก ๆ มาเรียงต่อกัน ให้เป็นลวดลายหรือรูปภาพในแบบที่คุณต้องการ ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับงานโมเสกมาไม่มากก็น้อยใช่ไหมครับ เพราะงานโมเสกเป็นที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์หรือรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบัน ที่ยังเป็นที่นิยมและนำมาใช้ตกแต่งภายในกันอยู่

    วันนี้เราจะชวนมาดู 5 รูปแบบของงานโมเสก (Mosiac Art) กัน ว่ามีเอกลักษณ์และรูปแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นไอเดียให้คุณนำไปใช้ออกแบบงานที่ใช่สำหรับบ้านของคุณกันนะครับ 

1. Classical Mosaic Art

ที่มา Shutterstock

    งานโมเสกประเภทคลาสสิก ได้รับอิทธิพลมาจากยุคกรีกกับโรมัน ซึ่งยังคงถูกหยิบนำมาใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันครับ โดยในสมัยก่อนการทำชิ้นงานโมเสกแบบดั้งเดิมจะค่อนข้างใช้เวลานาน และต้องอาศัยความพยายามอย่างมาก เนื่องจากเป็นการนำเศษกระเบื้องหรือเครื่องปั้นดินเผามาตัดด้วยมือทีละเล็กละน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิตและหินอ่อน

    โดยลวดลายโมเสกแบบคลาสสิกจะออกแนวแฟนตาซี ตามความเชื่อในยุคโบราณ เช่น ลายนางเงือก เซนทอร์ หรือลวดลายง่าย ๆ อย่างชามใส่ผลไม้ เป็นต้น

    ทั้งนี้งานโมเสกแบบคลาสสิกนั้นมีสไตล์ที่ค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยครับ ทั้งแบบ Byzantine แบบยุค Renaissance ซึ่งทั้งหมดล้วนให้กลิ่นอายแห่งความเป็นยุโรปในช่วงยุคคลาสสิก โดยในสมัยเก่าแก่ งานโมเสกแบบคลาสสิก จะถูกหยิบมาใช้ในงานสถานที่สาธารณะและคฤหาสน์ส่วนตัว แต่ในปัจจุบันงานโมเสกคลาสสิกได้ถูกหยิบมาใช้ในการตกแต่งห้องครัว ห้องน้ำ และสระว่ายน้ำ ด้วยรูปทรงเรขาคณิตแบบต่าง ๆ ซึ่งช่วยสร้างงานศิลปะ เพิ่มสุนทรียภาพภายในบ้านได้อย่างลงตัว

2. Pebble Mosaic Art 

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.islandstone.com/

     สำหรับงานโมเสกแบบ Pebble จัดเป็นงานโมเสกที่ใช้หินกรวดมาทำ จึงมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทั้งนี้งาน Pebble ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่การใช้หินกรวดมาสร้างสรรค์งานนะครับ แต่เรายังสามารถใช้เปลือกหอย เมล็ดพืชต่าง ๆ มาใส่ในชิ้นงานได้ด้วย ซึ่งชิ้นงานจะมีพื้นผิวหยาบนิด ๆ ตามความโค้งมนของวัสดุที่เรานำมาใช้

ทั้งนี้ Pebble ถือเป็นงานโมเสกที่ใช้เวลาในการสร้างได้รวดเร็วกว่าประเภทอื่น ๆ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการคัดเลือกหินกรวดที่เหมาะสมเพื่อลวดลายที่ต้องการ อีกทั้งยังเป็นงานโมเสกที่มูลค่าค่อนข้างสูงอีกด้วย หากเทียบกับในสมัยก่อนที่ต้องใช้วิธีการแบบดั้งเดิม ด้วยปริมาณงานและดีไซน์ที่ค่อนข้างซับซ้อนครับ

    ซึ่งในปัจจุบันงานโมเสกประเภทนี้จะค่อนข้างหายาก แต่เราก็ยังสามารถใช้กระเบื้องโมเสกที่ใกล้เคียงงาน Pebble เพื่อให้อารมณ์คล้าย ๆ กันได้นะครับ ที่สำคัญยังอาจตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบงานสไตล์นี้ แต่อยากได้พื้นผิวเรียบ ๆ โดยเราขอแนะนำ กระเบื้องโมเสก COTTO รุ่น MT 06PR-SILVER ลวดลายทรงกลม ที่ผ่านการออกแบบอย่างประณีต ให้คุณได้สร้างสรรค์การออกแบบได้อย่างลงตัว รวมถึงพื้นผิวมีความ Matt แข็งแกร่ง คงทน ใครที่อยากได้งานโมเสกแบบ Pebble ต้องไม่พลาดเลยครับ 

ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่ :  https://bit.ly/30MFZCI
 

3. Hand-Cut Mosaic Art

ที่มา Shutterstock

    แค่ชื่อก็บอกได้แล้วว่านี้คืองานใช้มือ ! เพราะโมเสกแบบ Hand-Cut เป็นอีกรูปแบบการสร้างงานโมเสกที่ใช้เวลานานพอสมควร แต่ยังถือว่าเร็วกว่าแบบคลาสสิกครับ ซึ่งโมเสกประเภทนี้มักจะใช้วัสดุจากแผ่นเซรามิกและแก้วเป็นหลัก โดยจะถูกตัดเป็นชิ้นบาง ๆ และนำไปขึ้นรูปด้วยการตัดแต่ง ดังนั้นงานประเภทนี้จะเหมาะกับการใช้วัสดุที่หลากหลาย และการเล่นสีที่ซับซ้อน ทำให้ได้งานโมเสกที่สวยงามและมีสีสันสุด ๆ 

    หากใครที่อยากได้งานโมเสกที่ออกแนวศิลปะร่วมสมัย ดูมีความโมเดิร์น และใช้สีสันที่หลากหลาย การใช้โมเสกแบบ Hand-Cut ถือว่าตอบโจทย์กับแนวนี้มากเลยครับ

4. Industrial Mosaic Art

    สำหรับงานโมเสกอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น Industrial Mosaic ที่ถือว่าใช้เวลาในการทำเร็วที่สุด โดยวัสดุที่นำมาใช้ส่วนใหญ่เป็นแก้วและกระจก ซึ่งถึงแม้จะคล้ายกับโมเสกแบบคลาสสิก แต่วิธีการนำมาใช้ค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น แบบ Classic อาจจะใช้กระเบื้องลายอิฐที่ผลิตจากแก้วบริสุทธิ์ มาใช้ในชิ้นงาน ที่มีความประณีตและดูกลมกลืนกับธรรมชาติ ต่างจาก Industrial ที่เป็นชิ้นงานสำเร็จรูป ซึ่งจะใช้กับงานที่ค่อนข้างเป็นแพตเทิร์น และลวดลายซับซ้อน

    โดยสไตล์ของงานจะค่อนข้างหลากหลายตามความนิยมในแต่ละช่วงอีกด้วย ซึ่งกระเบื้องโมเสกแบบสำเร็จยังสามารถนำมาใช้กับ Pixel Art รวมถึงงานศิลปะแบบ 3 มิติ ได้เช่นกันครับ ส่วนใครต้องการเปลี่ยนพื้นให้มีลวดลายที่ตอบโจทย์กับงานศิลปะสไตล์นี้อยู่ล่ะก็ COTTO ขอแนะนำ กระเบื้องโมเสก รุ่นโนโว ที่สามารถเนรมิตพื้นที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร หากใครอยากมีพื้นโมเสกที่มีลวดลายที่แปลกตา ลองเลือกใช้กระเบื้องโมเสกรุ่นนี้ดูได้นะครับ

ดูรายละเอียดของกระเบื้องโมเสก รุ่นโนโว เพิ่มเติม ได้ที่ : https://bit.ly/3cyEgXg

    แต่ถ้าอยากให้งานที่ได้มีผลลัพธ์ที่แวววาวสวยงาม COTTO ขอแนะนำให้เลือกใช้กระเบื้องโมเสกแก้ว (Glass Mosaic) เพราะเนื้อจะโปร่งแสง มีความมันวาว จึงเหมาะกับการนำมาใช้ตกแต่งผนังภายในบ้าน เพื่อให้ได้ผนังที่มีลวดลายสวยงามและแวววาว     

ดูรายละเอียดของกระเบื้องโมเสกแก้วเพิ่มเติม ได้ที่ : https://bit.ly/2OYKZBS

5. Custom Ceramic Inserts 

งานศิลปะจาก Art Tile Mosaic

     ถ้าหากคุณไม่ต้องการตกแต่งพื้นหรือผนังบ้านด้วยกระเบื้องทั้งหมด การแทรกกระเบื้องทั่วไปบางส่วนด้วยศิลปะโมเสก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเลยนะครับ เพราะงานโมเสกประเภทนี้สามารถช่วยเพิ่มลูกเล่นและความแปลกใหม่ให้กับพื้นหรือผนังกระเบื้องธรรมดาในบ้านของคุณได้  เช่น การเพิ่มลวดลายเฉพาะ ตัวอักษร หรือรูปภาพที่ต้องการ เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งบ้านด้วยงานโมเสกประเภทนี้หลายคนอาจจะคิดว่าทำได้ยาก แต่ในความจริงแล้วสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านเราได้ สะดวก และไม่ยุ่งยาก ด้วยบริการสุดพิเศษ ”Art Tile Mosaic” จาก COTTO

บริการ “Art Tile Mosaic” บริการออกแบบวางลายโมเสกให้เป็นงานศิลปะตกแต่ง ที่มีจุดเด่น คือ สามารถทำตามความต้องการของลูกค้าได้ รับรองงานที่ได้เป็นงาน Masterpiece มีชิ้นเดียวในโลกแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ รูปเครื่องหมายวงศ์ตระกูล รูปดอกไม้ รูปปลาโลมา เรียงสลับไล่สีสัน หรือรูปที่มีความละเอียดมาก ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ 

    ผนังลวดลายดอกทิวลิป                                       ลวดลายสำหรับพื้นสระว่ายน้ำ

เพราะทาง COTTO ได้ใช้กระเบื้องเล็กพิเศษอย่าง “กระเบื้องโมเสกแก้ว Mixel” ที่เล็กเพียง 4.8 มม. หนาเพียง 4 มม. และยังมีสีสันและความแวววาวกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไปอีกด้วย แถมยังผลิตมาจาก Recycled Glass ถึง 98% ที่ถือเป็นการสร้างความสวยงามที่ยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมและบ้านของเราด้วยนะครับ

หากสนใจในบริการ “Art Tile Mosaic” สามารถแอด LINE OFFICIAL : @COTTOlife เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะครับ หรือ คลิก ! : https://line.me/ti/p/@cottolife

ส่วนใครที่อ่านบทความนี้แล้วสนใจอยากตกแต่งบ้านด้วยกระเบื้องโมเสก สามารถเลือกใช้กระเบื้องโมเสกคุณภาพจาก COTTO ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและหลายสไตล์ได้นะครับ

ดูรายละเอียดของสินค้ากระเบื้องโมเสก COTTO เพิ่มเติม ได้ที่ : https://bit.ly/3eEPeNy