เคล็ด(ไม่ลับ) จัดห้องนอนให้ไร้ฝุ่น ! กับ 4 จุด ที่ต้องระวัง

เคล็ด(ไม่ลับ) จัดห้องนอนให้ไร้ฝุ่น ! กับ 4 จุด ที่ต้องระวัง

           ในขณะที่เรามักระวังฝุ่นและมลพิษจากภายนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่เชื่อไหมครับว่าห้องนอนของคุณ อาจเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองมากที่สุดก็ได้ !

เพราะภายในห้องนอนอาจเต็มไปด้วยฝุ่น ไรฝุ่น และแบคทีเรียมากมายที่คุณมองไม่เห็น ลองคิดดูว่าเราต้องสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ไปมากมายแค่ไหน ยิ่งใครไม่ค่อยได้ทำความสะอาดห้องนอน บอกเลยว่าอันตรายต่อสุขภาพมาก ๆ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปสำรวจ 4 จุดสะสมฝุ่นละอองภายในห้องนอน พร้อมวิธีจัดการกันครับ

จุดที่ 1 บริเวณใต้เตียง

          จุดแรกที่ใคร ๆ ก็มองข้าม แต่กลับใกล้ตัวเราสุด ๆ นั่นก็คือ “ใต้เตียง” ยังไงล่ะครับ โดยเฉพาะเตียงที่มีพื้นที่เปิดโล่งด้านล่าง มักเป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี มักจะมีเศษผง และฝุ่นละออง เกาะอยู่มากมาย แถมยังเป็นจุดที่ทำความสะอาดได้ยากอีกต่างหาก แต่อย่างน้อยเราควรหมั่นทำความสะอาดบริเวณเตียงนอนสักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดีนะครับ

จุดที่ 2 บริเวณหน้าต่าง

          ถือเป็นอีกจุดหนึ่งในห้องนอนที่มีฝุ่นสะสมเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะตามซอกหน้าต่าง และหลายคนอาจจะไม่ได้ปัดฝุ่น หรือเช็ดถูทำความสะอาดบ่อยเท่ากับส่วนอื่น ๆ ในห้องนอน        

และไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างแบบบานพับหรือแบบกระจก ต่างก็เป็นจุดสะสมฝุ่นไม่แพ้กัน แต่อาจจะใช้วิธีทำความสะอาดที่แตกต่างกันไป สำหรับหน้าต่างบานพับเราสามารถใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ในการเช็ดทำความสะอาด และหน้าต่างที่เป็นกระจกอาจจะทำความสะอาดด้วยน้ำยาเช็ดกระจกแบบสเปรย์เพื่อลดฝุ่นละออง โดยเราควรทำความสะอาดบริเวณโซนหน้าต่างในทุก ๆ 2 สัปดาห์ นะครับ

จุดที่ 3 เครื่องปรับอากาศ

          แม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้ห้องของเราเย็นสบาย แต่หลายคนยังไม่รู้ใช่ไหมครับ ว่าสิ่งที่เราเปิดอยูุ่ทุกวัน กลับเป็นตัวดูดฝุ่นชั้นดีเลยทีเดียว  ถ้าเราลองแกะออกมาทำความสะอาดจะพบว่า ในแผ่นกรองและครีบอะลูมิเนียมมีฝุ่นเกาะอยู่หนามาก หากไม่ค่อยได้ถอดออกมาทำความสะอาด ยิ่งมีฝุ่นสะสมเยอะ แถมเวลาเราสูดดมอากาศที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศ ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้

          ดังนั้นอย่าลืมถอดแผ่นกรองออกมาล้าง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และเช็ดทำความสะอาดตรงครีบอะลูมิเนียมเป็นประจำกัน พร้อมทั้งล้างเครื่องปรับอากาศทุก ๆ 6 เดือนด้วยนะครับ

จุดที่ 4 ผ้าม่าน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน

          อย่างที่เราทราบกันดีว่า เฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้ ที่มีเส้นใยหรือเป็นผ้า มักจะเป็นตัวดักฝุ่นชั้นดีอยู่แล้ว และเมื่อสำรวจในบริเวณห้องนอน ก็คงหนีไม่พ้นผ้าม่าน ผ้าห่ม และผ้าปูที่นอนครับ แถมของเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่เราต้องใช้และสัมผัสเกือบทุกวัน ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ทุก ๆ 1-2 สัปดาห์นะครับ ส่วนผ้าม่านอาจจะยุ่งยากในการถอดออกมาล้าง ดังนั้นต้องหมั่นดูดฝุ่นบริเวณนี้บ่อย ๆ และถอดออกมาซักทุก ๆ 3-6 เดือน ครับ

          นอกจากนี้เราอาจจะใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือเครื่องดูดไรฝุ่นร่วมด้วย แล้วอย่าลืมนำผ้าปู ผ้าห่ม ผ้าม่าน ออกไปตากแดดเพื่อฆ่าไรฝุ่นและเชื้อโรค

          สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเทมในการช่วยดักจับฝุ่นภายในห้องนอน COTTO ขอแนะนำ AIR ION กระเบื้องฟอกอากาศ ที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ Tourmaline บนผิวหน้ากระเบื้อง จึงช่วยเข้าทำปฏิกิริยาเข้าจับฝุ่นภายในอากาศ

•  ปล่อยประจุไอออนลบ ในระดับ 3,000 ions/cm3
•  สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 89%
•  ช่วยดักจับฝุ่นละอองให้ตกลงสู่พื้น
•  ปรับคุณภาพอากาศให้คงที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
•  ประสิทธิภาพหลังติดตั้ง AIR ION อย่างน้อย 40% ของพื้นที่ในห้อง

ควรติดตั้ง AIR ION กระเบื้องฟอกอากาศในห้องนอนอย่างไร?

          ความจริงแล้วกระเบื้อง AIR ION สามารถปูได้ทั้งพื้นและผนัง แต่เพื่อประสิทธิภาพของการใช้งาน COTTO ขอแนะนำให้ปูกระเบื้องฟอกอากาศในบริเวณผนัง เพื่อให้ประจุไอออนลบช่วยเข้าดักจับฝุ่นที่ลอยในอากาศที่อยู่ในระดับการหายใจของมนุษย์

แล้วควรติดตั้ง AIR ION มากแค่ไหน ถึงจะช่วยลดฝุ่นภายในห้องได้?

          แนะนำให้ติดตั้ง AIR ION ประมาณ 40% ของพื้นที่ภายในห้องเลยครับ โดยสัดส่วนจะเท่ากับผนังห้อง 2 ด้าน หรือ พื้น+ผนัง 1 ด้าน นั่นเอง

          และนี่ก็เป็นอีกทางเลือกของการลดฝุ่นภายในห้องด้วย AIR ION กระเบื้องฟอกอากาศ ที่ช่วยให้คุณได้สูดอากาศที่สะอาด อีกทั้งยังไม่ต้องใช้ไฟฟ้า สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดระยะเวลาการติดตั้ง รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน หากใครสนใจสามารถตามไปดูรายละเอียดสินค้า AIR ION กระเบื้องฟอกอากาศได้ที่ https://bit.ly/3gCLr3Y

            งานนี้ใครที่ในห้องนอนฝุ่นเยอะเป็นพิเศษ ลองไปสำรวจตามจุดต่าง ๆ ภายในห้องที่เราแนะนำ รวมถึงหมั่นทำความสะอาด เลือกใช้ตัวช่วยกำจัดฝุ่นที่ตอบโจทย์ เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีและปลอดภัยต่อสุขภาพของเรามากขึ้น แล้วอย่าลืมติดตามเคล็ดลับน่ารู้ได้ที่ cotto.com และ cottolife.com กันนะครับ