เคล็ดลับน่ารู้ : เปิด 8 ขั้นตอน เลือกสุขภัณฑ์อย่างมืออาชีพ
หากพูดถึงการเลือกซื้อสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าสุขภัณฑ์ที่อยู่ในท้องตลาดมีอยู่กี่ประเภท และมีปัจจัยใดบ้างที่เราควรต้องให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ เพราะการมองดูจากรูปลักษณ์ภายนอกอาจจะไม่สามารถแยกความแตกต่างของสุขภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน แต่หากเราทราบถึงปัจจัยที่ควรใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อสุขภัณฑ์ ก็จะสามารถทราบความแตกต่าง เพื่อการเลือกซื้อสุขภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของเราได้เป็นอย่างดี
วันนี้ COTTO จึงขอนำเสนอข้อมูลที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านในการใช้เลือกซื้อสุขภัณฑ์ จะมีปัจจัยไหนบ้างที่ต้องเอาไว้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และการใช้งานสุขภัณฑ์ของเรา มาดูกันดีกว่าครับ
1. ชนิดของสุขภัณฑ์
ตัวอย่าง : สุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว และ สุขภัณฑ์แบบสองชิ้น
Photo Credit : https://www.cotto.com
สิ่งแรกที่สามารถสังเกตได้ง่ายและชัดเจนที่สุด คือ ชนิดของสุขภัณฑ์ โดยสุขภัณฑ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
• สุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว (One Piece) : มีถังพักน้ำเป็นชิ้นเดียวกับโถสุขภัณฑ์ จึงทำให้รูปทรงค่อนข้างกลมกลืนดูเป็นชิ้นเดียว โดยมีจุดเด่น คือ สวยงาม ติดตั้งได้รวดเร็วโดยไม่ต้องประกอบชิ้นส่วน มีระบบชำระล้างที่ทำงานเงียบ และยังไม่มีปัญหาน้ำรั่วมากวนใจเมื่อใช้ไปนาน ๆ ด้วยครับ แถมที่สำคัญเมื่อไม่มีรอยต่อ ก็ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคด้วยนะครับ แต่ สุขภัณฑ์ชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงกว่าสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น เพราะมีขั้นตอนในการผลิตที่ซับซ้อนกว่า
• สุขภัณฑ์แบบสองชิ้น (Two Pieces) : เป็นสุขภัณฑ์ที่มีถังพักน้ำแยกออกมา รวมถึงเป็นประเภทของสุขภัณฑ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถติดตั้งได้อย่างสะดวกสบายและมีราคาย่อมเยาว์ แถมยังมีดีไซน์ที่หลากหลาย ทำให้สามารถเข้ากันได้กับห้องน้ำหลากหลายสไตล์
2. ระดับความสูงของสุขภัณฑ์
เวลาเลือกซื้อสุขภัณฑ์ หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้ลองวัดระดับความสูงก่อนซื้อกันแน่เลยใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะระดับความสูงของสุขภัณฑ์มีผลต่อความสบายตอนนั่งอย่างที่คุณคาดไม่ถึง ซึ่งบางทีเราอาจจะรู้สึกว่าไม่ต้องวุ่นวายอะไรกับสิ่งนี้มาก เพราะห้องน้ำก็ไม่ใช่พื้นที่ที่เราต้องใช้ตลอดเวลา แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าสุดท้ายแล้วสุขภัณฑ์ที่เราซื้อมาความสูงไม่พอดี นั่งแล้วไม่สบาย อาจทำให้รู้สึกเกร็งหรือปวดเมื่อยกว่าเดิม กลายเป็นปัญหากวนใจ จนต้องไปจบลงที่การเปลี่ยนใหม่อีกรอบก็ได้นะครับ
โดยมาตรฐานระดับความสูงของสุขภัณฑ์ที่ดี ควรอยู่ที่ประมาณ 14-17 นิ้ว แต่สำหรับห้องน้ำเด็กแนะนำให้ใช้ความสูงประมาณ 14 นิ้ว ส่วนห้องน้ำมาตรฐานทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 17 นิ้ว ครับ
แต่เพื่อความแน่ใจและความสบายในระยะยาว เราขอแนะนำให้ทุกคนไปลองนั่งสุขภัณฑ์ของจริงที่โชว์รูมใกล้บ้านจะดีกว่านะครับ เพื่อให้รู้ว่าสุขภัณฑ์ที่เราจะเลือกซื้อนั้นเหมาะกับสรีระของเราจริง ๆ
3. ขนาด รูปทรง และดีไซน์ของสุขภัณฑ์
การเลือกสุขภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ ต้องไม่ลืมเรื่องขนาด รูปทรง และเรื่องของดีไซน์ด้วยนะครับ ซึ่งทาง COTTO ก็ได้แยกวิธีการตรวจเช็กมาให้ ดังนี้
• ขนาด : ก่อนอื่นเราควรเช็กขนาดของห้องน้ำ เพื่อที่จะได้จัดสรรพื้นที่และออกแบบการจัดวางได้อย่างเหมาะสมครับ หากใครคิดภาพไม่ออกให้ลองนึกว่า เวลาเราไปเข้าห้องน้ำตามร้านอาหารหรือที่สาธารณะ แล้วพบว่าห้องน้ำแคบมาก นั่งสุขภัณฑ์แล้วเข่าแทบชนประตู สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการไม่ได้วัดขนาดให้พอดีนี่แหละครับ ดังนั้นเราควรเลือกสุขภัณฑ์ให้เหลือพื้นที่จากปลายสุดของสุขภัณฑ์-ผนังห้องน้ำ อย่างน้อยประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้หัวเข่าติดประตูหรือผนังเวลาใช้งานครับ
• รูปทรงของฝานั่ง : โดยทั่วไปสุขภัณฑ์จะมีรูปทรงอยู่ 2 แบบ คือ ทรงกลมกับทรงรี หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าทรงหน้ายาว (Elongate) โดยทรงกลมจะเหมาะกับห้องน้ำที่ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด ส่วนทรงรีจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการความสบายในการใช้งาน เนื่องจากมีพื้นสัมผัสที่มากขึ้น ช่วยให้เฉลี่ยน้ำหนักกดทับได้ดีขึ้น เมื่อใช้งานจึงช่วยให้ขาไม่ชา
• ดีไซน์ : เรื่องดีไซน์เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญนะครับ เพราะในปัจจุบันสุขภัณฑ์ถูกออกแบบมาให้สามารถเข้าได้กับบ้านหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์ Minimal สไตล์ Modern หรือสไตล์ Luxury ผ่านการใช้รูปทรง สี หรือการใช้ความโค้ง ความเหลี่ยมของตัวสุขภัณฑ์ ที่เมื่อนำไปใช้แล้วจะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในห้องน้ำของเราให้น่าใช้ และรับรองว่าช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้กับทุกครั้งที่ใช้งานได้แน่นอน
4. ฝาปิดรองนั่ง
Photo Credit : https://www.cotto.com/
ใครจะไปคิดว่าส่วนเล็ก ๆ อย่างฝาปิดรองนั่ง ก็สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เพราะเมื่อเราใช้เสร็จแล้ว ควรปิดฝารองนั่งทุกครั้ง เพื่อความเป็นระเบียบและสุขอนามัยที่ดี สำหรับใครที่ใช้ชักโครกแบบธรรมดาอาจเคยพบกับปัญหาที่เวลาปิดฝา และเกิดการกระแทกทำให้มีเสียงดัง
แต่อีกทางเลือกที่ดีกว่า นั่นก็คือ การเลือกใช้ฝาปิดแบบ Soft Close ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มากขึ้น เวลาปิดจะค่อนข้างนุ่มนวล ไม่มีเสียงดังและเกิดการกระแทก ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้มากกว่าด้วยครับ
นอกเหนือจากนี้ยังมีนวัตกรรมฝาปิดอัจฉริยะ ที่มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์ ซึ่งทำให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น เพราะระบบจะเปิด-ปิดฝาอัตโนมัติ ช่วยให้การปิดฝานุ่มนวลขึ้น แถมเรายังไม่ต้องสัมผัส เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกได้อย่างเหนือชั้นเลยล่ะครับ[7] แต่ฟังก์ชันฝาเปิด-ปิดอัตโนมัตินี้จะมีอยู่แค่ในสุขภัณฑ์ที่เป็นระบบอัตโนมัติเท่านั้นนะครับ
5. ผิวสัมผัสของสุขภัณฑ์
นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ความสะอาดถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งถ้าหากมีผิวสัมผัสที่มันวาวและเรียบเนียนเป็นพิเศษ จะช่วยให้การทำความสะอาดสามารถทำได้ง่ายขึ้น
ซึ่งในปัจจุบัน COTTO ได้นำเทคโนโลยีสารเคลือบ Ultraclean+ มาใช้กับสุขภัณฑ์บางรุ่น ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค ลดการเกาะติดของคราบสกปรก คงทนต่อการขัดถู แถมช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น และที่สำคัญในสารเคลือบ Ultraclean+ ยังมีสาร Ag+ (Silver Ion) ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ถึง 99% ภายใน 24 ชม. อีกด้วย ถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานความสะอาดของสุขภัณฑ์ไปอีกขั้นเลยนะครับ
6. การรับรองมาตรฐานและบริการหลังการขาย
สำหรับสุขภัณฑ์ที่ดี นอกจากจะต้องได้รับการรับรองและผ่านมาตรฐานในการผลิตเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพแล้ว ควรเลือกซื้อสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมกับการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีด้วย เพราะถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป ทุกคนคงไม่อยากเสียเวลาวุ่นวายในการไปตามหา
แต่ข้อกังวลเหล่านี้จะหมดไปแน่นอน เมื่อคุณเลือกใช้สุขภัณฑ์จาก COTTO เพราะมีการรับประกันและบริการหลังการขายตามระยะเวลาที่กำหนด อย่าง “COTTO Fixing Service” บริการที่จะช่วยให้ผู้ใช้หมดกังวล ด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่คอยพร้อมให้คำปรึกษา นัดคิวซ่อมแซม จะสั่งซื้อสินค้าหรืออะไหล่ ก็สามารถติดต่อได้ทุกที่ทุกเวลา
7. เทคโนโลยีและฟังก์ชันอัตโนมัติ
ถ้าหากคุณกังวลและให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะอาดในห้องน้ำ เพราะเราสามารถเพิ่มความสะอาดและความปลอดภัยให้กับบ้านและการใช้ชีวิตได้ เพียงแค่เลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันฝารองนั่งเปิด-ปิดอัตโนมัติ หรือฟังก์ชันชำระล้างอัตโนมัติ ที่ฟลัชน้ำได้เพียงแค่โบกมือผ่าน นอกจากจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการสัมผัสและการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้แน่นอน
8. ระบบการชำระล้าง
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่าเราสามารถเลือกระบบชำระล้างได้ด้วยเหรอ? สุขภัณฑ์ทุกแบบก็น่าจะมีระบบชำระล้างมีหลากหลายรูปแบบ โดยสุขภัณฑ์ของ COTTO มีด้วยกัน 4 รูปแบบในปัจจุบัน ได้แก่
• ระบบ V-SILENT : “ทำความสะอาดแบบมีประสิทธิภาพ และไร้เสียงรบกวน”
• ระบบชำระล้างที่ทรงพลัง มีประสิทธิภาพการชำระล้างสูง เสถียร และไร้เสียงรบกวน
• ระบบ TRIPLEX : “สะอาดทั่วโถ ควบคุมน้ำ 3 ทิศทาง”
• ระบบชำระล้างที่ควบคุมเส้นทางการไหลของน้ำให้สามารถไหลไปได้รอบโถ ช่วยลดโอกาสการเกิดคราบสกปรก
• ระบบ SIPHON JET : “ทำความสะอาด ได้เร็ว แรง และหมดจด”
• ระบบชำระล้างที่สามารถปล่อยน้ำได้เร็วผ่านรูเจ็ท ช่วยให้ทำความสะอาดได้หมดจด เพราะรูเจ็ทจะทำหน้าที่เป็นตัวส่งน้ำ ช่วยทำให้เกิดแรงดูด แต่จะมีเสียงดังกว่าระบบอื่น
• ระบบ WASH DOWN : “สะดวก สะอาด ตักราดได้”
• ระบบชำระล้างที่ใช้น้ำใหม่แทนที่น้ำเก่า โดยใช้ความแรงของน้ำจากที่สูง และสามารถตักราดได้ ในกรณีที่น้ำไม่ไหลหรือปั๊มเสีย
(ชมวิดีโอการทำงานของระบบการชำระล้างเพิ่มเติม คลิก : https://bit.ly/3bL4RRK)
Recommended Product
เมื่อทุกคนรู้แล้วว่าสุขภัณฑ์นั้นมีหลากหลายประเภทและแตกต่างกันอย่างไร เราจึงคัดเลือกสุขภัณฑ์คุณภาพจาก COTTO มาให้ถึง 3 รุ่น ที่รับรองว่าพร้อมตอบโจทย์ความต้องการและการใช้งานของทุกคนแน่นอนครับ
• สุขภัณฑ์อัตโนมัติ รุ่น Verzo
ผสมผสานเทคโนโลยี ฟังก์ชันอัตโนมัติ และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ในสุขภัณฑ์ชิ้นเดียว
- เป็นสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว
- ระบบชำระล้างอัตโนมัติ “Power Jet”
ทำความสะอาดได้เร็ว หมดจด และทรงพลัง แถมใช้น้ำเพียง 3.8 ลิตร
- ระบบฝาเปิด-ปิดอัตโนมัติ ตรวจจับความเคลื่อนไหวผ่าน Microwave Technology
- ฝารองนั่งอุ่นและระบบเป่าลมอุ่น
- ระบบแสงไฟ LED ส่องสว่างตอนกลางคืน
- สะอาด ปลอดภัย ด้วยก้านฉีดสเตนเลสที่ฆ่าเชื้อรังสี UV ทุกครั้งที่ใช้งาน
พร้อมช่วยลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย 99% ใน 24 ชม. ด้วยสารเคลือบ Ultraclean+
- ควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรลแบบไร้สาย รูปทรงจับง่าย ถนัดมือ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้า คลิก : https://bit.ly/3rS3eYi
• สุขภัณฑ์ รุ่น Hercules Curve (CV9)
สุขภัณฑ์ที่พร้อมตอบโจทย์ ความสบายทั้งเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชัน
- มีให้เลือกทั้งแบบชิ้นเดียว และสองชิ้น
- ประสิทธิภาพชำระล้างสูงและไรเสียงรบกวน ด้วยระบบชำระล้าง V-Silent
- ดีไซน์โมเดิร์น
- ฝารองนั่งขนาดใหญ่ นั่งสบาย แบบ Comfort Seat
- ฝารองนั่ง อุ่นและระบบเป่าลมอุ่น
- ระบบแสงไฟ LED ส่องสว่างตอนกลางคืน
- สะอาด ปลอดภัย ด้วยก้านฉีดสเตนเลสที่ฆ่าเชื้อรังสี UV ทุกครั้งที่ใช้งาน
พร้อมช่วยลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย 99% ใน 24 ชม. ด้วยสารเคลือบ Ultraclean+
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้า คลิก : https://bit.ly/3tqPLqE
• สุขภัณฑ์ รุ่น Riviera Pro (CV10)
สุขภัณฑ์ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Taking Comfort to the Next Level” ที่ผสมผสานความงามกับเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
- มีให้เลือกทั้งแบบชิ้นเดียวและสองชิ้น
- ประสิทธิภาพชำระล้างสูงด้วยระบบชำระล้าง Siphon Jet
- นั่งสบายด้วยฝารองนั่งชนิดไฟฟ้า THE CONVENIC ขนาดใหญ่ รูปทรง Elongated
พร้อมรองรับทุกสรีระ
- ฝารองนั่ง อุ่นและระบบเป่าลมอุ่น
- ระบบแสงไฟ LED ส่องสว่างตอนกลางคืน
- สะอาด ปลอดภัย ด้วยก้านฉีดสเตนเลสที่ฆ่าเชื้อรังสี UV ทุกครั้งที่ใช้งาน
พร้อมช่วยลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย 99% ใน 24 ชม. ด้วยสารเคลือบ Ultraclean+
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้า คลิก : https://bit.ly/3tqYCIQ
ใครที่กำลังมองหาสุขภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันการใช้งาน อย่าลืมนำปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ไปประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อสุขภัณฑ์กันนะครับ เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ รูปลักษณ์ เข้ากับหลักสรีรศาสตร์ และยังเสริมสุขอนามัยที่ดี เพราะสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมดีไซน์และฟังก์ชัน นอกจากจะใช้งานได้ดีแล้ว ยังช่วยเติมเต็มพื่นที่ห้องน้ำในฝันของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ