มาตรวจสอบงานปูกระเบื้องแบบมือโปรกันเถอะ

มาตรวจสอบงานปูกระเบื้องแบบมือโปรกันเถอะ!

เช็กให้ชัวร์ทั้งก่อนและหลัง เพื่องานปังๆ ไม่พังแน่นอน

งานปูกระเบื้องเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของบ้านควรตรวจสอบความเรียบร้อยอย่างละเอียดทั้งก่อนและหลังการทำงานของช่าง เพราะเป็นส่วนที่จะต้องอยู่กับบ้านหลังสวยของเราไปอีกนาน ถ้าหากมีการทำงานที่ผิดพลาดหรือไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจเกิดปัญหากระเบื้องร้าวหลุดร่อนตามมา ทำให้เสียเวลาแก้ใหม่และยังอาจเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานอีกด้วย
วันนี้ COTTO จึงมีขั้นตอนการเช็กงาน ตั้งแต่การตรวจสอบชนิดของกระเบื้องก่อนซื้อ เพื่อป้องกันการใช้งานผิดประเภท ไปจนถึงการตรวจความเรียบร้อยหลังจบงานมาฝาก ใครที่อยากได้งานกระเบื้องสวยและปลอดภัยห้ามพลาดเลยล่ะ!

เช็กความถูกต้องก่อนให้ช่างเริ่มงานปูกระเบื้อง

• ตรวจสอบชนิดของกระเบื้องก่อนซื้อ

คุยกับช่างให้มั่นใจว่าได้ซื้อกระเบื้องไว้ใช้อย่างถูกประเภทตามที่เราเลือก โดยเฉพาะกระเบื้องปูพื้นกับกระเบื้องกรุผนัง ซึ่งห้ามใช้สลับกันเด็ดขาด และในวันตรวจรับงานก็ให้สังเกตว่า ช่างได้ใช้กระเบื้องตามที่แจ้งไว้หรือไม่ โดยกระเบื้องแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้

• กระเบื้องเอ็กซ์พอร์ซเลน (X-Porcelain) เป็นกระเบื้องที่มีส่วนผสมของอะลูมิน่า ทำให้กระเบื้องมีเนื้อแน่น แข็งแรง ทนต่อการขัด และการสึกกร่อนได้มากกว่ากระเบื้องทั่วไป จึงเหมาะสำหรับติดตั้งทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงพื้นที่ที่มีการสัญจรสูง โดยสามารถรับน้ำหนักได้สูงถึง 350 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร[MK10] 
• กระเบื้องโมเสก (Mosaic Tile - MT) เป็นกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ที่นำมาวางชิดกันให้เกิดเป็นลวดลายและสีสันต่างๆ สามารถใช้งานได้ในหลากหลายพื้นที่ ทั้งพื้น ผนัง สระว่ายน้ำ รวมถึงพื้นที่ที่มีลักษณะโค้ง หรือการนำมาเรียงเป็นรูปต่างๆ (Art Tiles)
• กระเบื้องปูพื้น (Floor Tile - FT) เหมาะสำหรับการปูพื้นทั่วไป ภายในอาคารที่พักอาศัย
• กระเบื้องกรุผนัง (Wall Tile - WT) เหมาะสำหรับการกรุผนังภายในอาคารที่พักอาศัย ซึ่งกระเบื้องประเภทนี้ไม่ควรนำมาปูพื้น เพราะไม่สามารถรับน้ำหนักได้มาก
• กระเบื้องแกรนิต (Granite - GT) เหมาะสำหรับการติดตั้งทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงพื้นที่มีการสัญจรสูง เช่น ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
• กระเบื้องแก้ว (Glass Tile - GL) เหมาะสำหรับการกรุผนังภายในอาคาร ทั้งนี้ ไม่ควรนำมาปูพื้น เพราะอาจเกิดรอยขูดขีดได้ง่าย

สิ่งที่ต้องตรวจสอบหลังช่างปูกระเบื้องเสร็จเรียบร้อย

• ดูภาพรวมเรื่องลวดลาย

ลวดลายของกระเบื้องเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด ซึ่งลายกระเบื้องมีหลายแบบ มีทั้งแบบที่เป็นลายเดียวกันหมด ซึ่งต้องปูให้หันไปทิศทางเดียวกัน และแบบที่เป็นภาพต่อกันหรือเป็นแพทเทิร์น ต้องตรวจสอบว่าช่างเรียงลายต่อกันอย่างถูกต้อง หากพบการวางลายผิด ช่างต้องรับผิดชอบรื้อและแก้ไขใหม่ ทั้งนี้ จะมีกระเบื้องประเภทที่มีลวดลายคละกัน ซึ่งจะไม่มีกฎการเรียงที่ตายตัว เพราะต้องการให้ดูเป็นธรรมชาติ ก็ให้ดูว่าช่างใช้แบบและสีถูกต้องตามที่ตกลงกันหรือไม่

• การปูกระเบื้องที่ดีต้องเรียบเสมอกัน

ขั้นตอนต่อมาให้ตรวจดูความเรียบของกระเบื้อง ซึ่งต้องเรียบเสมอกันทุกแผ่น เบื้องต้นให้ดูด้วยตาเปล่าก่อน ถ้าหากพบจุดน่าสงสัยให้ใช้วิธีการคือ กระเบื้องผนัง ใช้มือลูบจากแผ่นหนึ่งไปอีกแผ่นหนึ่ง ถ้าปูได้เรียบจะต้องไม่รู้สึกเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ ส่วนถ้าเป็นกระเบื้องปูพื้นให้ใช้เหรียญบาทวางระหว่างรอยต่อของแผ่นกระเบื้อง ถ้าใช้นิ้วกดแล้วกระดกเหรียญขึ้นมาได้แสดงว่าปูกระเบื้องไม่ได้ระดับเสมอกัน

• เสียงกระเบื้องบอกคุณภาพ

การปูกระเบื้องที่ถูกต้องจะต้องใช้กาวซีเมนต์ในการยึดติด โดยช่างจะปาดกาวซีเมนต์ด้วยเกรียงหวีบนพื้นคอนกรีตให้ทั่วเป็นทางยาวแล้วจึงปูกระเบื้องลงไป แต่ช่างบางคนอาจทำผิดวิธีเพราะต้องการความรวดเร็วและประหยัด ซึ่งเกิดจากสองปัญหาหลักๆ คือ

1. ช่างใช้ปูนซีเมนต์ผสมน้ำแทนกาวซีเมนต์ ซึ่งกระเบื้องจะดูดน้ำออกมา และทำให้มีแรงยึดเกาะน้อย ส่งผลให้กระเบื้องหลุดร่อนได้ง่าย
2. ช่างโปะกาวซีเมนต์เป็นก้อนคล้ายซาลาเปาตรงกลางแทนการปาดให้ทั่ว ส่งผลให้เกิดช่องว่าง เวลาเหยียบแล้วจะเกิดเสียงเหมือนมีโพรงด้านใน ระยะยาวอาจเกิดการหลุดร่อน แตกหักได้

วิธีตรวจสอบคือให้ใช้ไม้เคาะที่แผ่นกระเบื้องเพื่อฟังเสียง หากมีเสียงก้องๆ ไม่แน่นทึบแสดงว่าปูกระเบื้องไม่ถูกวิธี

• อย่าละเลยร่องยาแนว

นอกจากการตรวจสอบกระเบื้องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือร่องยาแนว ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างกระเบื้อง ใช้เว้นเผื่อกระเบื้องที่มีขนาดเหลื่อมกันเล็กน้อย และยังรองรับการหดหรือขยายตัวของกระเบื้องด้วย โดยควรเว้นอย่างน้อย 3 mm. แต่ถ้าหากเป็นกระเบื้องตัดขอบให้เว้นอย่างน้อย 2 mm. หรือช่างอาจใช้เครื่องมือ Tile Spacer ช่วยกำหนดช่องยาแนว สำหรับการตรวจสอบ ให้ใช้นิ้วลูบไปตามร่องยาแนว เพื่อตรวจดูว่าไม่มีรูเล็กๆ ซึ่งอาจเป็นที่อยู่ของพวกแมลงได้

• เก็บงานและทำความสะอาดอย่างเรียบร้อย

ช่างปูกระเบื้องที่ดี นอกจากมีฝีมือด้านการปูแล้ว ยังต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องความสะอาดของงานด้วย ควรสังเกตว่าร่องยาแนวและแผ่นกระเบื้องมีการเลอะกาวซีเมนต์หรือกาวยาแนวหรือไม่ ถ้าหากพบจุดสกปรก ต้องให้ช่างทำความสะอาดเพื่อเก็บงานให้เรียบร้อย

นอกจากหลักในการตรวจสอบงานปูกระเบื้องข้างต้นแล้ว คุณสามารถศึกษาเรื่องขั้นตอนการปูกระเบื้อง รวมถึงข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเบื้องได้ โดยดาวน์โหลดคู่มือได้ที่ https://www.cotto.com/medias/module-ecatalogue/AW_INFOGRAPHIC_TILE_WEB.PDF

การปูกระเบื้องที่ถูกต้องนั้นนอกจากจะได้ความสวยงามแล้ว ยังทำให้กระเบื้องคงทนและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย การหาช่างที่มีฝีมือและเข้าใจวิธีการปูกระเบื้องอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ถ้าหากคุณไม่อยากกังวลว่าจะได้ช่างปูกระเบื้องที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพอย่างทีม CTIS ซึ่งเป็นช่างฝีมือชั้นเยี่ยมที่จบหลักสูตรการ ติดตั้งกระเบื้องมาโดยเฉพาะ ผ่านช่องทางออนไลน์ https://ctis.scgceramics.com/cisdemand หรือ https://www.facebook.com/CTISService