29 เคล็ดลับพลาดไม่ได้…เพื่อห้องน้ำสะอาด

2017-05-30

ห้องเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยรายละเอียดอย่างห้องน้ำ แต่ละพื้นที่ แต่ละอุปกรณ์ ต้องการการดูแลด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป จนบางครั้งอาจทำให้เราละเลยบางจุดเล็กๆ ไป COTTO จึงรวบรวมเทคนิคดูแลห้องน้ำให้ใหม่อยู่เสมอ ที่จะเปลี่ยนงานแสนน่าเบื่อเป็นความสนุก ขจัดคราบต่างๆ ได้ง่ายและครบถ้วนทุกพื้นที่ยิ่งขึ้น

พื้นห้องน้ำ

  1. ใช้ผ้าเช็ดพื้นถูพื้นห้องน้ำให้หมาดหรือแห้งทุกครั้งหลังใช้งาน หรือเปิดประตูหน้าต่างห้องน้ำไว้สักวันละ 2-3 ชั่วโมงให้พื้นแห้ง เป็นการลดกลิ่น ป้องกันการหมักหมมได้ดี
  2. ถ้าหากร่องยาแนวมีสีดำขึ้น ให้ใช้น้ำเปล่า 1 ส่วนกับน้ำส้มสายชู 2 ส่วน ใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดทิ้งไว้ 15 นาที ใช้ฟองน้ำบิดน้ำหมาด ๆ เช็ดอีกครั้ง
  3. คราบหินปูนบนกระเบื้อง จัดการได้โดยใช้เกรียง หรือ ไขควงปากแบน ค่อยๆ แซะคราบหินปูนออกจนหมด แล้วเช็ดด้วยน้ำส้มสายชู หรือน้ำยาทำความสะอาดพื้น หากยังติดแน่น ลองใช้ผงคลอรีนที่ใช้ฆ่าเชื้อมาละลายน้ำเจือจาง 1 ต่อ 5 ราดทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออกแล้วลองขูดใหม่
  4. ควรทำความสะอาดห้องน้ำทั้งพื้นและผนังเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเลือกใช้น้ำยาที่เหมาะสำหรับทำความสะอาดห้องน้ำ โดยที่ไม่ทำลายพื้นผิวของกระเบื้องหรือร่องยาแนว
  5. ผนังห้องน้ำ
  6. หลังใช้ห้องน้ำทุกครั้ง ฉีดน้ำทำความสะอาดผนังก่อนที่คราบสบู่จะแห้งเป็นคราบฝังแน่น
  7. แต่ถ้าเป็นคราบฝังแน่นหรือทำความสะอาดยากแล้ว ให้ใช้น้ำส้มสายชู 1 ส่วนผสมกับน้ำ 4 ส่วน และใช้ผ้าชุบแล้วเช็ดผนังบริเวณที่มีคราบสบู่ ล้างด้วยน้ำสะอาด และใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง
  8. หากยาแนวสีขาวแล้วเกิดจุดดำ ให้ใช้ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่งกับแปรงสีฟันเก่าๆ มาขัดออก
  9. ส่วนที่เป็นกระจก
  10. คราบจาก สบู่ แชมพูสระผม โฟมโกนหนวด ยาสีฟันจากการแปรงฟัน ผลิตภัณฑ์พวกนี้ แม้จะละลายน้ำง่าย แต่หากสกปรกควรรีบเช็ดด้วยผ้าก่อนจะแห้งติด หากสกปรกมากจนเช็ดด้วยน้ำธรรมดาไม่ออก ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจก และใช้กระดาษหนังสือพิ มพ์ขัดให้สะอาด
  11. หากกระจกหมองจากละอองน้ำและคราบไขมัน ให้เอาน้ำสบู่ผสมกับน้ำส้มสายชู นำผ้านุ่มๆ ชุบแล้วบีบให้หมาด เช็ดถูเบาๆ หรือใช้แอลกอฮอล์ ผสมน้ำหรือใช้น้ำยาเช็ดกระจกเช็ดรอยคราบออก
  12. ประตูกั้นห้องอาบน้ำที่ทำด้วยกระจกหรือพีวีซี มักมีรอยด่างดำจากคราบสบู่ แก้ไขได้โดยเช็ดด้วยน้ำยาเช็ดกระจก และเช็ดคราบน้ำออกด้วยฟองน้ำหลังอาบน้ำทุกครั้ง
  13. เฟอร์นิเจอร์และชั้นเก็บของในห้องน้ำ
  14. ตู้เก็บของมักจะอับชื้น เป็นที่อยู่ที่ชื่นชอบของแมลงต่างๆ หมั่นเปิดออกมาเช็ดด้วยผ้าหมาด ทุกซอกทุกมุม ดูแลให้สะอาดและแห้งเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
  15. เช็ดขวดบรรจุภัณฑ์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อย่าให้เป็นแหล่งอาหาร และที่อยู่ของแมลง โดยเฉพาะที่รองสบู่ต้องขัดล้างคราบสบู่เสมอไม่ให้เป็นคราบสะสม
  16. ชั้นวางผ้า ที่แขวนผ้าเช็ดตัว เช็ดให้สะอาด และใช้สำหรับผ้าที่ซักแล้วมาวางเพื่อรอใช้เท่านั้น ไม่ควรตากผ้าทิ้งไว้ที่ชั้นวางผ้าในห้องน้ำ
  17. โถสุขภัณฑ์ และโถปัสสาวะ
  18. เพียงฉีดน้ำโดยรอบเป็นประจำทุกวัน เพื่อล้างคราบปัสสาวะที่อาจกระเด็นโดยรอบ สิ่งตกค้าง ฝุ่นผง เศษสิ่งของที่อาจตกร่วงลงมา ใช้ผ้าเช็ดน้ำให้แห้ง หรือปล่อยให้แห้งเอง
  19. หากโถสุขภัณฑ์เป็นคราบปัสสาวะฝังแน่น ให้กดน้ำชักโครติดต่อกัน 2-3 ครั้ง จากนั้นใช้น้ำยาซักผ้าขาวเข้มข้นเทลงไป ใช้แปรงขัด ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอีกครั้ง คราบก็จะหายไป แต่หากเป็นคราบหินปูนฝังแน่น ใช้น้ำส้มสายชู1-2 แก้วราดให้ทั่วแทน
  20. 16. กลิ่นที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งของห้องน้ำสะอาด ป้องกันและดับกลิ่นโถปัสสาวะง่ายๆ ด้วยสเปรย์ดับกลิ่นทำเอง โดยผสมแอลกอฮอล์ 1 ช้อนชา น้ำมันหอมระเหยกลิ่นสดชื่น 30-40 หยด และน้ำเปล่าเล็กน้อยแล้วเทใส่ขวดสเปรย์ ใช้ฉีดที่ชักโครกทุกครั้งหลังเสร็จธุระ ก็จะช่วยให้กลิ่นสะอาดขึ้น
  21. อ่างล้างหน้า
  22. นำผ้าสะอาดชุบน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ถูให้ทั่วบริเวณพื้นผิวของอ่าง แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ จากนั้นค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด
  23. การทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่ออ่างล้างหน้า ไม่ทำให้สีซีด หรือผุกร่อน ทำได้โดยนำผงบอแรกซ์ปริมาณครึ่งถ้วยเล็ก ผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกคนให้เข้ากัน และนำฟองน้ำมาชุบส่วนผสม นำไปขัดให้ทั่วอ่าง อ่างล้างหน้าก็จะสะอาดหมดจด
  24. อ่างอาบน้ำ
  25. หลังอาบน้ำ ต้องเช็ดล้างคราบสบู่ทันที และล้างทำความสะอาดทุกครั้ง ถ้ามีคราบดำ ใช้สบู่ อย่างอ่อนกับฟองน้ำขัดล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง อย่าให้มีน้ำขังอยู่ในอ่าง เพราะคราบสบู่จะสะสมฝังแน่นอย่างรวดเร็ว
  26. ดูแลการระบายน้ำอย่าให้อุดตัน โดยเฉพาะเศษขนหรือผม ที่คั่งค้างตรงจุดระบายน้ำหรือป๊อบอัพที่ โดยต้องหมั่นขจัดเศษสกปรก
  27. ก๊อกน้ำ
  28. ดูเเลรักษาผิวเคลือบของก็อกน้ำ ควรทำความสะอาดบ่อยๆ เเละสม่ำเสมอ โดยใช้ฟองน้ำกับสบู่ชนิดเหลว หรือน้ำยาที่มีคุณสมบัติ เช่นเดียวกับการล้างเเก้ว ทำความสะอาดให้ทั่วเเล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้เเห้ง โดยใช้ผ้านุ่มผิวละเอียดอ่อนที่ไม่เเห้งเกินไป
  29. ตัวก๊อกควรใช้น้ำยารักษาผิวโครเมี่ยม ทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเพื่อรักษาผิวให้เงางามอยู่เสมอ
  30. คราบหมองบนก๊อกน้ำมักมาจากคราบไขมัน วิธีทำความสะอาดง่ายๆ เพียงเช็ดด้วยน้ำส้มสายชูที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ล้างคราบไขมัน ให้ก๊อกน้ำสะอาดมันวาวเหมือนใหม่แล้ว หรืออาจจะใช้มะนาวหั่นครึ่ง ค่อยๆ ถูก ก็จะได้กลิ่นสดชื่นเพิ่มขึ้นด้วย
  31. ฝักบัวอาบน้ำ
  32. ทำความสะอาดหัวฝักบัวโดยผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่น ในอัตราส่วน น้ำ 1 ลิตร ต่อน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ โดยแช่ไว้ในถุงพลาสติกรัดปากถุงทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง
  33. สำหรับฝักบัวโลหะที่มีรอยขีดข่วนสามารถใช้น้ำยาเคลือบเล็บใส แต้มเพื่อเพิ่มความเงางามเหมือนใหม่อีกครั้ง
  34. สายฉีดชำระ
  35. สายชำระเป็นจุดรวมเชื้อโรคและสกปรกที่สุด วิธีทำความสะอาดคือ ใช้สก๊อตไบรท์ขัดถูบริเวณ รูสายชำระ แล้วเปิดน้ำแรง ๆ ไล่หินปูนออก
  36. ทำความสะอาดง่ายๆ ก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยควรฉีดน้ำออกจากสายชำระก่อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งและฉีดน้ำอีกทีก่อนใช้งานตามปกติ
  37. ผ้าม่าน
  38. ผ้าม่านพลาสติก ควรซักด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาซักผ้าที่ผสมน้ำอุ่น แล้วล้างออกด้วย น้ำอุ่น แล้วผึ่งให้แห้งโดยการตากลมดีกว่าตากแดด เพราะจะไม่ทำให้ผ้าม่านสี จืดจางลง
  39. หากผ้าม่านมีเชื้อรา..ให้นำผงฟูผสมกับน้ำมะนาวมากน้อยตามความต้องการ แล้วนำไปทา บริเวณที่มีเชื้อราจากนั้นก็นำผ้าม่านไปแช่ในน้ำเกลือประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงซักล้างด้วยน้ำเปล่า ก็จะได้ผ้าม่านที่สะอาดเหมือนใหม่แล้ว

ห้องน้ำในบ้านดีไซน์สวยอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องสะอาดลถูกสุขลักษณะด้วยนะครับ ฉะนั้นหากมีเวลาจำกัดในเรื่องการทำความสะอาด ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณกันนะครับ

ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาและทำความสะอาดห้องน้ำ

UPDATE